01-07-2567

กระทรวงศึกษาธิการ ปลื้มนักเรียนทุนโคเซ็น มีศักยภาพสูง พร้อมนำความรู้สู่การพัฒนาประเทศ

   พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ นายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนานักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยไปศึกษาต่อ ณ สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น  วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ณ ห้องประชุมสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว โอกาสนี้ว่าที่ร้อยตรี ดร. ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แสดงปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดพร้อมทั้งมอบโอวาทและให้กำลังใจแก่นักเรียนทุนกว่า 90 คน ในการศึกษาเล่าเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมี นายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ให้การต้อนรับ  ดร.ปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการ ก.พ.  ได้รายงานผลการดูแลนักเรียนทุนและรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานสัมมนา นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์  ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ดร.กมล รอดคล้าย ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้โอวาทและให้กำลังใจในการศึกษาณ ประเทศญี่ปุ่น และว่าที่ร้อยตรี ดร. ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ ให้แก่นักเรียนทุนและผู้เข้าร่วมงาน

   นายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวในช่วงพิธีเปิดชื่นชมศักยภาพนักเรียนทุนทุกคนที่มีผลการศึกษาในระดับดีเยี่ยม ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนสถาบันไปเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันระดับต่างๆ หลายรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพเด็กไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก และได้ฝากให้นักเรียนทุนทุกคนใช้เวลาและโอกาสที่มีอยู่ในการศึกษาเล่าเรียน และใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จกลับไปพัฒนาประเทศไทย ตามที่โครงการฯ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ นอกจากนี้ยังได้แจ้งข่าวสำคัญตามที่คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุนของนักเรียนทุนรุ่นที่ 1 และ 2 และสถานที่ปฏิบัติงานของนักเรียนทุนทุกรุ่นสามารถปฏิบัติงานเพื่อใช้ทุนหลังสำเร็จการศึกษาของนักเรียนทุนทุกรุ่นได้ทั้งในหน่วยงานของรัฐ หรือ ภาคอุตสาหกรรม หรือ สถาบันไทยโคเซ็น เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุนตามสัญญา นับเป็นโอกาสอันดียิ่งของนักเรียนทุนทุกคน  ที่รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้สามารถกลับมาปฏิบัติงานชดใช้ทุนในหน่วยงานที่มีความหลากหลาย ทั้งภาครัฐ  และภาคอุตสาหกรรม โดยไม่จำกัดภูมิภาคในประเทศไทย  และไม่จำกัดสัญชาติของบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย  เพื่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต 

  

   “สพฐ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาต่อสำหรับนักเรียนกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ไปศึกษาต่อ ณ สถานบัน KOSEN  ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นทุนการศึกษาต่อ สำหรับนักเรียนทุนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ได้แก่ นักเรียนทุนรุ่นที่ 1 ปีการศึกษา 2561 และนักเรียนทุนรุ่นที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 24 ทุน  และต่อคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 เห็นชอบโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค (โครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น(Thai KOSEN) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สถาบันโคเซ็นแห่งสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สถาบันโคเซ็น สจล.) และสถาบันโคเซ็นแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (สถาบันโคเซ็น มจธ.) และยังมีทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ไปศึกษา ณ สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น อีก 72 ทุน ตั้งแต่รุ่นปีการศึกษา 2563 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียนเก่าของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มาศึกษา ณ สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น รสมทั้งสิ้นกว่า 90  คน” ว่าที่ร้อยตรี ดร. ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

   นอกจากนี้ นักเรียนทุนทั้ง 6 รุ่น ได้นำเสนอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชีวิตความเป็นอยู่ และตัวอย่างผลงานวิจัย จาก 10 สถาบัน KOSEN อาทิ ผลงานวิจัย  ประสบการณ์ฝึกงาน การเรียนและชั้นเรียนในสถาบัน KOSEN  กิจกรรมในสถาบัน KOSEN  วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ในญี่ปุ่น One Day in KOSEN  กิจกรรมชมรม และกิจกรรมเสริมหลักสูตร ทำให้เห็นภาพพลังคนรุ่นใหม่ของประเทศไทยที่จะนำความสำเร็จความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ประเทศไทยในรัฐบาลปัจจุบันที่กำหนดวิสัยทัศน์ประเทศไทย  IGNITE Thailand จุดประกายพลังคนรุ่นใหม่ ในสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับโครงสร้าง นโยบาย และกลไก เพื่อมุ่งเสริมสร้างสังคมที่ก้าวทันพลวัตของโลก และเกื้อหนุนให้คนไทยมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับการยกระดับกิจกรรมการผลิตและการให้บริการให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมต่อไป