05-09-2567

สพฐ.กำชับพื้นที่เสี่ยง 44 จังหวัดเฝ้าระวัง ป้องกัน ช่วยเหลือนักเรียน-ครู-สถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัย

   ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการรการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังเพื่อช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้รายงานการเฝ้าระวังเพื่อช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัย โดยข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2567  พบว่า ตั้งแต่วันที่ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ถึงปัจจุบัน มีสถานศึกษาใน 19 จังหวัด ได้รับผลกระทบ จำนวน 265 โรงเรียน  35 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาประสบอุทกภัย รวมทั้งสิ้น 5,819 คน แบ่งเป็น นักเรียน จำนวน 4,955 คน ซึ่งได้รับการเยียวยาเร่งด่วนแล้ว จำนวน 4,879  คน ครูและบุคลากรฯ จำนวน 864 คน ได้รับการเยียวยาเร่งด่วนแล้ว จำนวน   864  คน

   เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า แม้ในหลายพื้นที่ สถานการณ์ได้ดีขึ้นแล้ว แต่ยังมีโรงเรียนที่ สพฐ. ยังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คือ โรงเรียนบ้านห้วยมอญ โรงเรียนบ้านร่มเกล้า และโรงเรียนแม่ขะนิง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยคล้ายกัน คือ มีน้ำกัดเซาะอาคาร  ประสบปัญหาดินสไลด์และดันอาคาร ทำให้เกิดรอยร้าว ถ้าฝนตกหนักต่อเนื่องอีก 2-3 ครั้ง ดินอาจจะสไลด์ลงมาที่โรงเรียนได้ จึงได้กำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้ง 44 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และ กทม. ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง คลื่นลมแรง รวมถึงน้ำล้นอ่างเก็บน้ำและน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ตนจึงขอเน้นย้ำ ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เตรียมพร้อมปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอุทกภัย รวมถึงแผนป้องกันและแผนเผชิญเหตุที่ได้เตรียมไว้  โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักเรียน ครู บุคลากร เป็นลำดับแรก