ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการใช้งานระบบ e-Office ภายใต้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ(GDCC) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ และมีผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วม ณ ห้องโถงชั้น 1 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม
ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการทำงานของภาครัฐให้มีความทันสมัย สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังมีนโยบาย “Go Cloud First”ที่เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งมุ่งเน้นใช้ระบบคลาวด์กลางภาครัฐ(GDCC) เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการบริหารจัดการข้อมูลและได้พัฒนาระบบงานต่างๆเพื่อให้สามารถบูรณาการการทำงานภายในหน่วยงานพร้อมทั้งเชื่อมโยงกระบวนงานภายในของหน่วยงานบนแพลตฟอร์มเดียว อันเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเปลี่ยนแปลงสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบบริหารจัดการภายในองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการใช้งานระบบ e-Office ภายใต้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)มีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นหน่วยงานนำร่องในการใช้งานในระยะแรก ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้รับสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการจัดหาแพลตฟอร์มและสนับสนุนเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระบบ e-Office ได้แก่ ระบบทะเบียนงานสารบรรณ ระบบร่าง ทาน ตรวจเอกสารและลงนามดิจิทัล ระบบบริหารการประชุม ระบบจัดเก็บ แชร์ไฟล์และคลังข้อมูล ระบบจองประชุมและจองรถและระบบจัดการครุภัณฑ์
“การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลและเป็นตัวอย่างที่ดีในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ทำให้มีการเชื่อมโยงกระบวนงานภายในของหน่วยงานต่างๆของวธ.บนแพลตฟอร์มเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลและการทำงานร่วมกันและส่งเสริมความรวดเร็วและความโปร่งใสในการจัดการงานสารบรรณและเอกสารผ่านระบบดิจิทัล สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการร่าง ตรวจ ทานและลงนามเอกสารดิจิทัลเพื่อเพิ่มความสะดวกและความแม่นยำในการทำงาน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร เช่น การจัดการประชุม การจองทรัพยากรและการบริหารครุภัณฑ์ ช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการงานต่างๆและนำไปสู่การบริการประชาชนที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยยิ่งขึ้น” ดร.ยุพา กล่าว
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลดิจิทัลต้องการให้หน่วยงานราชการไร้กระดาษ ดังนั้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงได้ดำเนินการส่งเสริมการใช้งานระบบ e-Office ภายใต้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ(GDCC)ขึ้น ซึ่งจะเปลี่ยนการทำงานของระบบราชการเป็นการทำงานด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้วน ไม่มีกระดาษเข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นจนจบ จะลดขั้นตอนต่างๆและต้นทุนการใช้กระดาษ และระบบนี้ได้ใช้ในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมา 2 ปีแล้ว จึงมีการปรับปรุงและพัฒนาระบบมาโดยตลอดและมั่นใจว่าหน่วยงานอื่นๆนำไปใช้ได้ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงแรกๆที่ใช้ระบบดิจิทัลในงานราชการ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีข้าราชการและบุคลากรของวธ.และหน่วยงานราชการต่างๆใช้ระบบดิจิทัลประมาณ 100,000 คน ทำให้ระบบราชการมีการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของวธ.ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดคาดว่าใช้เวลาอบรมและเริ่มใช้งานระบบดิจิทัลรวมเวลาประมาณ 2 เดือนก็สามารถใช้งานระบบ e-Office ได้อย่างเต็มที่