นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังรับเรื่องร้องเรียนกรณีสอบพนักงานราชการของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา หรือ สพม.สระแก้วจาก นางสาวเบญญาภา  เย็นอุดม หรือครูเบญ ผู้สอบพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ลำดับที่ 1 ว่า จากเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้เข้าสอบมีรายชื่อลำดับที่ 1 ในการประกาศผลสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 แต่กลับไม่ปรากฏในรายชื่อในบัญชีเมื่อมีการประกาศผลสอบฉบับใหม่ วันที่ 12 กันยายน 2567นั้น ทำให้นางสาวเบญญาภา ไม่ได้รับการบรรจุเป็นครูตามลำดับเดิมก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้ส่งนิติกรเข้าตรวจสอบในกรณีนี้แล้วยัง สพม.สระแก้ว รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สระแก้ว ก็ลงพื้นที่เข้าตรวจยึดชุดเอกสารการสอบทั้งหมดจากเขตพื้นที่แล้วเช่นเดียวกัน  โดยมีกรอบระยะเวลาภายใน 7 วัน ซึ่งการดำเนินการได้มีการเก็บข้อสอบชุดดังกล่าวแล้ว ซึ่งฐานความผิดที่เกิดจากกรณีดังกล่าวจะต้องรอการตรวจสอบก่อนว่า เป็นความประมาทหรือว่าเป็นการกระทำโดยตั้งใจ หากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงผู้เกี่ยวข้องจะต้องโดนลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด คือการให้ออกจากราชการ เบื้องต้นระหว่างรอผลตรวจสอบทาง สพฐ. ได้มีการเสนอมาตรการเยียวยาให้มีการจ้างเป็นครูอัตราจ้างในเขตที่พักตามภูมิลำเนาของผู้ร้องเรียนระหว่างการสอบสวนเพื่อให้มีงานทำไปก่อนและหลังจากข้อเท็จจริงกระจ่างแล้ว จะมาดูถึงการเยียวยาต่อไป โดยยืนยันว่าหากหลังจากตรวจสอบผลคะแนนของนางสาวเบญญาภาแล้วพบว่าได้คะแนนอันดับที่หนึ่งตามที่การประกาศผลจริง ทางกระทรวงศึกษาธิการยืนยันว่าผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมและได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการตามที่สอบได้อันดับที่หนึ่งตามที่ปรากฏแน่นอน

   ด้านนางสาวเบญญาภา เย็นอุดม  ผู้เข้าสอบที่เข้าร้องเรียน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีคนภายในเขตพื้นที่รายหนึ่งพยายามติดต่อให้ตนลบโพสต์ข้อความดังกล่าวที่เกิดขึ้นออกจากเฟซบุกของตนเอง แต่ตนไม่ทำ เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดของตน และตนตั้งใจทำข้อสอบอย่างเต็มที่ ซึ่งตนได้มองว่าหากจะมีการเยียวยาจริงเมื่อมีการตรวจสอบคะแนนตามหลักฐานข้อเท็จจริงแล้วและพบว่า ตนได้ทำข้อสอบได้คะแนนอย่างถูกต้องก็ต้องเยียวยาให้ตนได้เป็นพนักงานราชการตามที่สอบได้ แต่หากผลการตรวจสอบตนทำคะแนนไม่ได้จริงนั้นตนก็พร้อมยอมรับผล ส่วนประเด็นที่ตนไม่ขอรับตำแหน่งครูอัตราจ้างระหว่างรอผลสอบสวนนั้น เนื่องจากลัวว่าเรื่องจะเงียบ ซึ่งตนขอให้มีความชัดเจนเกิดขึ้นในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาตนไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้