ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. โดยมีผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

   ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า ประเด็นที่ได้หารือในวันนี้ คือเรื่องแก้ไขปัญหาเด็กหลุดนอกระบบ หรือ zero drop out โดยทาง สพฐ.นำข้อมูลมาวิเคราะห์และให้ทางเขตพื้นที่การศึกษาไปดำเนินการ ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง สพฐ.พบเด็กกว่า 4,000 ราย และติดตามกลับมาได้ สิ่งต่อไปที่จะทำ คือ เด็กที่ไม่สามารถกลับเข้าสู่ระบบได้ สพฐ.จะพาการเรียนไปให้น้องตามนโยบาย “พาน้องกลับมาเรียน และพาการเรียนไปให้น้อง เช่น เด็กที่ป่วยติดเตียง เพื่อไม่ให้เด็กขาดการศึกษา ส่วนประเด็นต่อไปเป็นด้านสุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก สพฐ.ได้เน้นย้ำให้เขตพื้นที่ไปปรึกษากับทางกรมสุขภาพจิตเพื่อเข้าไปดูแลสภาพจิตใจของเด็กไม่ให้เกิดความเครียดเพื่อลดการเกิดปัญหาที่ร้ายแรง นอกจากนี้ สพฐ.ยังได้หารือถึงข้อกังวลของผู้ปกครองที่โรงเรียนธรรมภิรักษ์ จะปิดตัวลงและบุตรหลานของตนจะไม่มีที่เรียนนั้น ทางสพฐ.ได้มีการเตรียมการให้ทางโรงเรียนในสังกัดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง รับนักเรียนจากโรงเรียนดังกล่าวที่ต้องการเข้าศึกษาต่อเรียบร้อยแล้ว

   ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีผู้อำนวยการโรงเรียนลักเงินค่าอาหารของเด็กนักเรียนและมีการพกพาอาวุธนั้น ทางสพฐ.ได้มีการเรียกตัวผู้อำนวยการคนดังกล่าวมาประจำที่ สพฐ.ส่วนกลางแล้ว เพื่อให้ทางเขตพื้นที่ทำการสอบสวนทางวินัยและสืบหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงจะมีการลงโทษทางวินัยอย่างถึงที่สุด ตามข้อสั่งการของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคือต้องไม่มีการทุจริต

   นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังหารือถึงเรื่องของขวัญปีใหม่ ของขวัญวันเด็กและวันครู ซึ่งสิ่งที่ทำแล้วจะลดภาระของครูลงจะดำเนินการให้เป็นของขวัญวันครู สิ่งที่ลดภาระ และสร้างรายได้กับเด็กระหว่างเรียนจะทำให้เป็นของขวัญวันเด็ก เบื้องต้นมีแนวทางที่จะขับเคลื่อนภายใต้ “Learn to earn” ทำให้เด็กมีอาชีพและสร้างรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งทาง สพฐ. ยังมีอีกหลายโครงการที่ทำเพื่อเป็นการลดภาระนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ