วันนี้ (วันที่ 24 มกราคม 2568) เวลา 9.30 น. พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา เรียนดี มีความสุข ของสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา) ประเดิมตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอน จุดแรกที่โรงเรียนพัทลุงคริสเตียน อำเภอเมืองพัทลุง 
รมว.ศธ. กล่าวตอนหนึ่งหลังรับฟังรายงานการจัดการศึกษา ว่า ขอชื่นชมโรงเรียนที่นำนวัตกรรมการเรียนการสอนที่ทันสมัย มาใช้พัฒนาการจัดการศึกษาสร้างสมรรถนะเด็กตามแต่ละช่วงวัยอย่างเป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับนโยบายเรียนดี มีความสุข และขอให้โรงเรียนหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมการเรียนการสอน โดยเฉพาะการเตรียมเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นช่วงวัยที่สำคัญในการดูแลเด็กให้พัฒนาตามช่วงวัยอย่างเต็มที่ เช่น การช่วยฝึกอบรมของครูพี่เลี้ยงในศูนย์เด็กเล็ก เป็นแหล่งศึกษาดูงาน การแชร์ทรัพยากรร่วมกัน เป็นต้น 

   "ผมให้ความสำคัญกับเด็กเล็ก โดยเฉพาะนวัตกรรมการเรียนการสอน ที่จะได้ช่วยแชร์ทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว และดีอยู่แล้ว ให้กับครูโรงเรียนอื่นด้วย เพราะเชื่อว่า ทุกโรงเรียนมีจุดดีจุดเด่นต่างกัน หากได้ใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อพัฒนาการศึกษาเด็กปฐมวัยของเรา ก็จะช่วยยกระดับการเรียนการสอนได้ของจังหวัดได้ และขอฝากครู ผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่ ร่วมกันสร้างเด็กให้ "ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ" และขอเป็นกำลังใจให้กับโรงเรียน ขอให้ยืนหยัดพัฒนาการศึกษาของพัทลุงต่อไป ตามแนวทางปฐมวัยของโรงเรียน เพื่อพัฒนาการศึกษาเด็กปฐมวัยร่วมกัน เป็นการศึกษาที่มีคุณภาพ เป็นผู้ใหญ่ที่ดี รู้เท่าทันเทคโนโลยีและเท่าทันโลก" รมว.ศธ. กล่าว

   โดย รมว.ศธ. และคณะ ได้เยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนด้วยระบบมอนเตสซอรี่ ซึ่งครูคือหัวใจสำคัญในการสร้างบรรยากาศการเรียน การจัดกระบวนการเรียนการสอน การประเมินเด็ก และพัฒนาตามวัย โดยครูจะจัดสภาพแวดล้อมอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อเตรียมเด็กปฐมวัย ด้วยความสุขในการเรียนรู้ของวัยเตรียมอนุบาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้สู่อนุบาล ให้มีวินัยและช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวันได้เหมาะสมวัยและมั่นใจ ส่วนชั้น ป. 1-2 และชั้น ป. 3 - 6 เน้นให้ความรู้ ศึกษาค้นคว้า และสร้างประสบการณ์นอกห้องเรียนผ่านโครงงาน เพื่อสร้างสมรรถนะการสื่อสาร คิดวิเคราะห์ จำแนกได้ พร้อมเน้นการแสดงออกด้านภาวะอารมณ์ และอยู่ร่วมกับ สอนการดูแลตัวเอง ผู้อื่นในสังคม 

   นอกจากนี้ ได้เยี่ยมชมห้องอาหารของเด็กนักเรียน การรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย การจัดวางมุมเก็บเศษ อาหาร และการใช้อุปกรณ์จานชามที่เหมาะสมกับพัฒนาการ ตลอดจนห้องสุขา ตามนโยบาย สุขาดี มีความสุข