ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม กล่าวว่า จากกรณีครูทำอนาจารเด็กนักเรียนในห้องเรียนของโรงเรียนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 8 ราย พร้อมทั้งถ่ายภาพและคลิปวิดีโอและนำมาโพสในโซเชียล ซึ่งการกระทำดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจแล้วนั้น พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการให้คุรุสภาดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาดกับครูรายดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยไม่มีการลดโทษ และได้ตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของครูที่ตกเป็นข่าวดังกล่าว พบว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 16 พ.ค. 2569 และครูรายนี้ไม่เคยได้รับรางวัลจากคุรุสภา และได้รับเรื่องดังกล่าวเข้ากระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพตามข้อบังคับคุรุสภาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะเสนอกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนฯ และพักใช้ใบอนุญาตไว้ก่อน โดยไม่ต้องรอผลการสอบสวน ซึ่งจะทำให้ครูรายดังกล่าวไม่สามารถประกอบวิชาชีพครูได้
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า การกระทำที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำผิดจรรยาบรรณ อย่างร้ายแรง และมีโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หากผู้ที่ถูกกล่าวหาประพฤติผิดจริงก็จะต้องถูกดำเนินการตามข้อเท็จจริง ซึ่งคุรุสภาจะพิจารณาอย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด “กรณีครูกระทำผิดกับเด็กนักเรียนโดยเฉพาะกรณีการล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับได้ แม้เพียงเล็กน้อยก็มีผลกระทบต่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ผู้ที่เป็นครูไม่สมควรที่จะประพฤติตนเช่นนี้โดยเด็ดขาด โทษสถานหนักถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ คุรุสภาในฐานะสภาวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา เน้นย้ำให้ครูทุกคนจำเป็นที่จะต้องประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพให้สมกับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครู และเป็นที่เคารพนับถือของคนในสังคม” ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว