พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ) เปิดเผยภายหลังการลงนามความร่วมมือในโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ ระหว่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ สถานศึกษาในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 71 โรง เป็นสถานศึกษาสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 1-2 จำนวน 47 แห่ง และสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร จำนวน 24 แห่ง

   พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวว่า โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา” หรือ Partnership School Project เป็นแนวคิดการสร้างนวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาภายใต้บทบาทความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และบริษัท มูลนิธิ องค์กร หรือสถาบันที่สนับสนุนทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการบริหารให้กับสถานศึกษา 

   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ครั้งนี้ได้มีการลงนามความร่วมมือกับทางบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมองว่าทางบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษาเนื่องจากมีการบริหารจัดการโรงเรียนอยู่แล้ว ซึ่งในความร่วมมือตนอยากให้มีการแลกเปลี่ยนทรัพยากรด้วยกันทั้งสองฝ่าย เช่น บุคลากร พร้อมยกระดับคุณภาพการศึกษา ให้ตอบรับส่วนของภาคเอกชน คือ ต้องพัฒนาบุคลากรให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดแรงงานด้วย ให้เด็กจบการศึกษาและมีงานรองรับ ไม่ใช่แค่ผลิตเด็กออกมาและไม่มีงานทำ ในวันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเนื่องจากมีเด็กจาก 71 โรง มาเข้าร่วมกับทางซีพี ออลล์ ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากเด็กในพื้นที่กรุงเทพฯมีบริบทที่ต่างจากที่ จ.ลพบุรี ซึ่งอาจจะมีแนวคิดหรือนวัตกรรมใหม่ๆมาช่วยพัฒนาและอาจขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆได้ต่อไป

   ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การจัดการศึกษาให้สอดคล้องสำหรับผู้เรียนระหว่างภาคเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการกระจายอำนาจและความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความสำเร็จจึงได้เริ่มโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาขึ้น โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนขึ้น ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถเติบโตไปเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของชาติได้