สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วง “รอบรู้ Energy 5 นาทีกับ กฟผ.” วันนี้ทางรายการของเราก็มีสาระความรู้ด้านพลังงานมาเล่าให้ทุกคนฟังกันอีกเช่นเคย จะเป็นเรื่องอะไร ไปติดตามกันค่ะ

   วินมอเตอร์ไซค์ ถือเป็นทางเลือกแรกสำหรับผู้คนในเมืองหลวงที่ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง หรือเพื่อความสะดวกสบาย ไม่ต้องทนกับปัญหารถติด ซึ่งเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของคนกรุง ไม่เพียงเท่านั้น หลายคนยังพึ่งพาวินมอเตอร์ไซค์ในการเดินทางไปไหนมาไหนในพื้นที่ที่ไม่ไกลมากนัก ด้วยความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ตามตรอกซอกซอยได้ง่ายอีกด้วยการใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพการจราจรในเขตเมืองที่ค่อนข้างหนาแน่น จึงทำให้เกิดฝุ่นละอองจิ๋ว หรือ PM 2.5 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการสันดาปของเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรา นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

   การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีความพยายามที่จะช่วยลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่ จึงส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าใน กฟผ. มาอย่างต่อเนื่องทั้งการนำรถมินิบัสไฟฟ้า หรือ EV Bus มาใช้สำหรับรับส่งพนักงานและประชาชนที่มาศึกษาดูงานในพื้นที่กฟผ. และเมื่อปลายปี 2563 กฟผ. ได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ ENGY ของ กฟผ. หรือ EGAT E-Bike ภายใต้แคมเปญ “บิดเปลี่ยนโลก” โดยนำร่อง EGAT E-Bike จำนวน 51 คัน เพื่อใช้งานในกิจการเพื่อสังคมและกิจการของ กฟผ. พร้อมทั้งจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) ซึ่งมีระบบ RFID Access ควบคุมบริหารจัดการอำนวยความสะดวกในการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับผู้ใช้งาน

   สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ENGY เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบให้ขับขี่ง่าย มีความปลอดภัยสูง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 กิโลวัตต์ วิ่งได้ระยะทาง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รับน้ำหนักได้มากกว่า 150 กิโลกรัม มีการติดตั้งระบบ GPS Tracking เพื่อติดตามตำแหน่งของรถ ระบบควบคุมความปลอดภัย และระบบตัดคันเร่งเมื่อนำขาตั้งลง ทำให้ผู้ขับขี่และผู้รับบริการเกิดความรู้สึกมั่นใจ ความพิเศษของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ENGY
ที่ทำให้ต่างจากรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั่วไปนั้น อยู่ที่แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออน ชนิด NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) ขนาด 22 Ah จำนวน 2 ก้อนใต้เบาะรถ ที่สามารถรองรับการใช้งาน ได้ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หากใช้ก้อนแรกหมดแล้วก็สามารถใช้ก้อนที่ 2 ต่อได้ทันทีและสามารถแยกนำออกไปชาร์จภายนอกได้ และสามารถสลับแบตเตอรี่ได้ทันทีที่สถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อรองรับการใช้งานที่ต่อเนื่อง

   โดยในปีที่ผ่านมา กฟผ. ได้ร่วมกับอำเภอบางกรวย จ.นนทบุรี ดำเนินโครงการนำร่องการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะในอำเภอบางกรวย โดยได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ENGY จำนวน 51 คัน ให้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเพื่อทดลองให้บริการประชาชนเป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมทั้งดำเนินการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้กฟผ. สำนักงานกลาง ศูนย์บริการ ENGY Bike Service Point ใกล้วัดสำโรง และชุมชนวัดชลอ รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชัน ENGY Rider เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบแบตเตอรี่ในสถานีสับเปลี่ยน ระยะทางที่ขับขี่ ส่วนผู้ใช้บริการก็สามารถดูข้อมูลผู้ขับขี่หรือเรียกใช้บริการได้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษทางอากาศและฝุ่น PM 2.5 จากภาคการขนส่ง และยังเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกใน จ.นนทบุรี เพื่อขับเคลื่อนอำเภอบางกรวยสู่ชุมชนสีเขียว ด้านการขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัยไร้มลพิษ และสนองนโยบายภาครัฐในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งนี้ กฟผ. จะศึกษาข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่ ผลกระทบด้านพลังงาน เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อขยายผลสู่รถรับจ้างสาธารณะทั่วประเทศต่อไป

   กลับมาพบกับสาระความรู้ด้านพลังงานกันได้ใหม่ในตอนหน้านะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ