กฟผ.ร่วมกับการไฟฟ้ามาเลเซีย ศึกษาพัฒนาระบบโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าเชื่อมต่อ ระหว่างไทย – มาเลเซีย รองรับ Asian power grid เพื่อส่งเสริมความมั่นคงในการจัดหาพลังงานไฟฟ้า เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้าอาเซียนในอนาคต โดยเมื่อต้นเดือนกพ.ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมต.กระทรวงกลาโหม และ ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือ ระหว่างกฟผ. กับการไฟฟ้ามาเลเซีย เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้า ไทย – มาเลเซีย โดยนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการกฟผ. และดาโต๊ะ อินเดรา บาอาริน บินดิน ประธานบริหารการไฟฟ้ามาเลเซีย
ทั้งนี้ ผู้ว่าการกฟผ. ได้เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้ามาเลเซีย และกฟผ.ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับการเชื่อมต่อระบบส่งไฟฟ้าระหว่างประเทศ เพื่อรองรับการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบไฟฟ้าอาเซี่ยน หรือ Asain Power Grid สร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าให้กับภูมิภาคอาเซี่ยน และใช้สำหรับแลกเปลี่ยนซื้อขายพลังงานไฟฟ้า ในช่วงเวลาที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง หรือในยามฉุกเฉิน เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้าอาเซียนในอนาคต โดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันศึกษาความเหมาะสม แนวทางการเพิ่มขีดความสามารถโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย และมาเลเซีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งการออกแบบระบบส่งไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ศึกษากฏระเบียบ และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประเมินต้นทุนและความเสี่ยงต่างๆ เนื่องจากในปัจจุบัน สายส่งไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันสูง (HVHD) ขนาด 300 เมกกะวัตต์ ที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีไฟฟ้าแรงสูงคลองแงะ อ.สะเดา จ. สงขลา กับสถานีไฟฟ้าแรงสูงกูรูน รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545 และจะครบอายุการใช้งานในปี 2570
ด้านดาโต๊ะ อินเดรา บาฮาริน บินดิน ประธานกรรมการบริหารการไฟฟ้ามาเลเซีย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีความมุ่งมั่น ที่จะร่วมกันขับเคลื่อน Asian power grid ให้บรรลุตามเป้าหมาย ซึ่งการศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถระบบส่งไฟฟ้าระหว่างไทยกับมาเลเซียในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดี ที่จะช่วยผลักดันนโยบายดังกล่าว โดยทางการไฟฟ้ามาเลเซีย ยังดำเนินการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้ากับประเทศสิงค์โปร์ และร่วมกับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย เชื่อมโยงระบบส่งไฟฟ้าจากเกาะสุมาตรา ไปยังมาเลเซีย และจากกาลิมันตัน ไปยังซาบาห์ นอกจากนี้ การไฟฟ้ามาเลเซีย หวังว่าจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากความเชี่ยวชาญของกฟผ. ทั้งการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน และร่วมพัฒนาต่อยอดในด้านอื่นๆกับกฟผ.ในอนาคตต่อไป
ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซี่ยนในเรื่องของการพัฒนาโครงข่ายการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้านี่ถือเป็นเรื่องสำคัญนะคะ อย่างแรกคือได้ประโยชน์ด้านความมั่นคงของระบบไฟฟ้า คือแต่ละประเทศจะมีช่วงเวลาการใช้ไฟฟ้าสูงสุดไม่เหมือนกัน ประเทศไหนใช้น้อยช่วงไหน ก็อาจเป็นช่วงที่อีกประเทศใช้ไฟฟ้ามาก เราก็สามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าในช่วงนั้นๆได้ หรือถ้ามีการรวมตัวกันผลิต และส่งไฟฟ้าให้กับประเทศนอกกลุ่มอาเซี่ยน ก็จะกลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้าอาเซี่ยนในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศในกลุ่มอาเซี่ยนมีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ มีความมั่นคง และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศด้วย
……………………….กฟผ. ผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย EGATFORALL…………….