สกร. สงขลา เปิดอบรม “Sweet Heritage” เสริมพลังภูมิปัญญาขนมไทย

การอบรมมุ่งให้บุคลากร สกร. ทำหน้าที่เป็น “ผู้รักษาและผู้ถ่ายทอดความรู้” ผ่านการเก็บข้อมูลภูมิปัญญาขนมไทยในชุมชนอย่างเป็นระบบ ก่อนถ่ายทอดและต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้จริง ทั้งด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ พร้อมพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เป็น “นักจัดการเรียนรู้” ที่ทำงานเชิงรุก เข้าถึงประชาชน และออกแบบกิจกรรมสร้างรายได้ในระดับครัวเรือน

ในโอกาสนี้ ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้พบปะบุคลากรในพื้นที่ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้กำลังใจและมอบแนวทางการทำงาน โดยเน้นย้ำให้แต่ละจังหวัดจัดทำ “บัญชีชุมชนไทยเสี่ยงสูญหาย” เพื่อรวบรวมองค์ความรู้สำคัญไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลา และสามารถนำฐานข้อมูลดังกล่าวไปใช้วางแผนเชิงพื้นที่ ต่อยอดเป็น Soft Power และ Learn to Earn ให้เกิดรายได้ในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม

อธิบดี สกร.กล่าวว่า “สิ่งสำคัญในวันนี้คือการสืบสานองค์ความรู้จากอดีตให้กลับมามีชีวิต ผ่านการทำงานของ สกร. ที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างรุ่นสู่รุ่น ขนมไทยไม่ใช่เพียงชื่อ แต่คือการทำ-การลงมือปฏิบัติ เป็น Active Learning ที่เชื่อมไปสู่ Learn to Earn ทำเป็นหลักสูตรเชื่อม Credit Bank ให้ประชาชนได้เก็บชั่วโมงการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ.2566 สิ่งเหล่านี้คือทรัพย์ปัญญาของท้องถิ่นที่มีคุณค่า มีชีวิต และอยู่คู่ชุมชน”

นอกจากนี้ อธิบดี สกร. ย้ำว่า เมื่อได้อ่านรายชื่อขนมไทยโบราณของสงขลา พบว่าตนรู้จักเพียง “สาคูต้มกะทิสด” เพียงชนิดเดียว จึงยิ่งตระหนักว่า ถ้าไม่มี สกร. ที่เป็นผู้สืบสานและถ่ายทอด องค์ความรู้บางอย่างอาจเลือนหายไป จึงขอชื่นชมบุคลากรทุกคนที่แม้มีงบประมาณและกำลังคนไม่มาก แต่สามารถทำงานยากให้เกิดขึ้นจริง และจะยังคงยั่งยืนต่อไปได้ด้วยพลังของทุกคน” พร้อมทั้งเชิญชวนว่า ในเดือนมกราคม สกร. เตรียมจัดงาน “Sweet Heritage ทั้งประเทศ” ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) เพื่อเป็นตลาดกลางทรัพย์ปัญญาชุมชนจากทุกจังหวัดให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย นำภูมิปัญญาไปสู่คุณค่าใหม่ ทั้ง Art of Food – Art of Life และต่อยอดสู่สุขภาวะโภชนาการ ร่วมมือกับ สสส. และเครือข่าย เพื่อให้ชุมชนแข็งแรงทั้งกาย ใจ และเศรษฐกิจ

ภายในงานดังกล่าว มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนมไทยวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำขนมไทย จำนวน 16 หลักสูตร โดยในช่วงเช้าแบ่งเป็นการสาธิตและฝึกปฏิบัติ จำนวน 8 หลักสูตร ได้แก่ 1) ขนมเหนียว โดยสกร.ระดับอำเภอสะเดา 2) ขนมเจาะหู โดยสกร.ระดับอำเภอเทพา 3) ขนมขี้มอด โดยสกร.ระดับอำเภอนาทวี 4) ขนมซัมบูซ๊ะ โดยสกร.ระดับอำเภอสะบ้าย้อย 5) ขนมเม็ดข้าว โดยสกร.ระดับอำเภอระโนด 6) ขนมหม้อข้าวหม้อแกงลิง โดยสกร.ระดับอำเภอกระแสสินธุ์ 7) ขนมกรวย โดยสกร.ระดับอำเภอรัตภูมิ 8 ) ไอติมหลอดโบราณ โดยสกร.ระดับอำเภอบางกล่ำ และในช่วงบ่ายการสาธิตและฝึกปฏิบัติ อีกจำนวน 8 หลักสูตร ได้แก่ 1) ขนมม่อฉี่ โดยสกร.ระดับอำเภอหาดใหญ่ 2) ขนมข้าวเหนียวสองดัง โดยสกร.ระดับอำเภอนาหม่อม 3) ขนมปำ โดยสกร.ระดับอำเภอคลองหอยโข่ง 4) ขนมดาด้า โดยสกร.ระดับอำเภอจะนะ 5) ขนมคอเป็ด โดยสกร.ระดับอำเภอสิงหนคร 6) ขนมดู โดยสกร.ระดับอำเภอสทิงพระ 7) ขนมคนที โดยสกร.ระดับอำเภอเมืองสงขลา  ขนมซั้ง โดยสกร.ระดับอำเภอควนเนียง

สำหรับโครงการ Sweet Heritage ครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ สกร. ในการยืนยันว่าการเรียนรู้ไม่จำกัดแค่ในห้องเรียน หากเกิดขึ้นได้จากวัตถุดิบในครัว ควันเตาถ่าน เสียงหัวเราะในชุมชน และการลงมือทำจริง เป้าหมายสูงสุดไม่ใช่เพียงการอนุรักษ์ แต่คือ “การทำให้ภูมิปัญญากลับมามีชีวิต” เปลี่ยนเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้ประชาชนในพื้นที่