รมว.ศธ. ลงพื้นที่ จ.นครศรีฯ เล็งจัดตั้งสหกรณ์กลางแก้หนี้ครูพร้อมเดินหน้าปรับระบบการศึกษาแบบองค์รวม
- ข่าวการศึกษา
- รมว.ศธ. ลงพื้นที่ จ.นครศรีฯ เล็งจัดตั้งส...

.วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำทีมผู้บริหารในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา ณ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน ให้การต้อนรับ พร้อมตรวจเยี่ยมบูทแสดงนิทรรศการผลงานเด่นของโรงเรียน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถและศักยภาพของนักเรียนในด้านวิชาการและกิจกรรมสร้างสรรค์
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันนี้ ได้มารับฟังเสียงสะท้อนจากครูและนักเรียน รวมถึงผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่ พบว่ามีหลายประเด็นสำคัญที่พ้องกับพื้นที่อื่นๆ อย่างเช่น เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยขณะนี้มีแนวคิดที่จะตั้ง “สหกรณ์กลาง สกสค.” เพื่อรองรับการโอนหนี้ครู โดยเริ่มจากวงเงิน 1 แสนล้านบาทจากธนาคารรัฐ และอาจขยายเป็นเฟส จนครอบคลุมหนี้ทั้งหมดประมาณ 9 แสนล้านบาท พร้อมวางแผนหาทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อลดภาระดอกเบี้ยแก่ครู และทำให้กองทุนมั่นใจว่าความเสี่ยงต่ำ คาดว่าจะได้รูปแบบชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า และน่าจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ภายใน 3 เดือน ซึ่งคงต้องแก้ระเบียบของกรมส่งเสริมสหกรณ์ก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามแนวทางเดิม จะพิจารณาทางเลือกอื่นต่อไป และต้องมีมาตรการไม่ให้ครูเป็นหนี้เพิ่มในอนาคต พร้อมเน้นย้ำว่าเรื่องหนี้ครูเป็นปัญหาที่รัฐบาลทุกชุดพยายามแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่สำเร็จลุล่วง แต่เราก็จะเดินหน้าต่อไปให้สำเร็จ สิ่งใดที่ผู้บริหารชุดก่อนทำมาดีแล้วเราก็จะมาต่อยอดให้มันสำเร็จลุล่วงให้ได้ในส่วนของการลดภาระงานครู ก็ได้มีแผนลดภาระงานที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของครู เช่น งานบัญชี พัสดุ และการเงิน ซึ่งเสี่ยงต่อความผิดพลาดทางกฎหมาย โดยจะจัดหาอัตรากำลังช่วยงานสนับสนุน เพื่อให้ครูมุ่งสอนและพัฒนาเด็กได้เต็มที่ พร้อมทั้งผลักดันการปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะให้ทันสมัยและจูงใจมากขึ้น เพื่อสร้างเส้นทางเติบโตในสายอาชีพครู และดึงดูดคนเก่งเข้าสู่วงการ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาในอนาคต
"พร้อมกันนี้ ได้มอบแนวทางให้ สพฐ. สอศ. และ สกร. ดำเนินการผลักดันการเรียนการสอน “วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง” ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้เยาวชนเข้าใจรากเหง้าและพัฒนาการของประเทศอย่างถูกต้อง ไม่สับสนกับประชาธิปไตยในแบบต่างประเทศ เน้นให้เป็นวิชาหลักที่มีแบบเรียนชัดเจน และจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจังเช่นในโรงเรียนต่างประเทศ อีกด้วย" รมว.ศธ. กล่าว
ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ทั้งสิ้น 711 โรงเรียน จำแนกเป็น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช (สพม.นศ.) จำนวน 71 โรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช (สพป.นศ.) 1 จำนวน 105 โรงเรียน สพป.นศ.2 จำนวน 188โรงเรียน สพป.นศ.3 จำนวน 210 โรงเรียน สพป.นศ. 4 จำนวน 132 โรงเรียน และสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) จำนวน 5 โรงเรียน มีนักเรียนรวมทั้งหมด 157,529 คน ครู/บุคลากร/อัตราจ้าง 9,431 คน ผู้อำนวยการสถานศึกษา 621 คน และ บุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษา 544 คน
ทั้งนี้ จากผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบาย สพฐ. พบว่า การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการแก้ปัญหาเด็กออกนอกระบบการศึกษา (ZERO DROPOUT) ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา มีแนวทางป้องกันปัญหา ส่งผลให้แนวโน้มเด็กออกนอกระบบลดลง นักเรียนเรียนจบใช้วุฒิไปศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพได้ และที่โรงเรียนชะอวด ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบป้องกัน เฝ้าระวัง และติดตามเด็กออกกลางคันไม่ให้หลุดออกนอกระบบภายใต้โครงการปลอด 0 ร มส และ มผ เชื่อมโยงกับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเข้มแข็ง โดยความร่วมมือของครู และผู้ปกครอง ส่งผลให้นักเรียนจบการศึกษา 100% นอกจากนี้ ผลการสอบ O-NET ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในปีการศึกษา 2567 ของโรงเรียน สพฐ.ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่า มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ และค่าเฉลี่ยรวมสูงกว่าระดับ สพฐ. 4 รายวิชา คือ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ส่วนผลการสอบ O-NET ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีการศึกษา 2567 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ และค่าเฉลี่ยรวมสูงกว่าระดับ สพฐ. ทั้ง 5 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ตลอดจนมีการขับเคลื่อนผู้บริหาร ครู ให้ตระหนักรู้ในการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการประเมินระดับนานาชาติ (PISA) และเตรียมนักเรียนให้เกิดความพร้อม เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทางการประเมิน PISA เป็นต้น
จากนั้น รมว.ศธ. พร้อมเลขาธิการ กพฐ. และคณะฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ซึ่งเป็นโรงเรียนกินอยู่ประจำ จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 รับเด็กด้อยโอกาส 10 ประเภทเข้ามาเรียน โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่ง รมว.ศธ. และคณะได้เยี่ยมการจัดการเรียนการสอน เยี่ยมชมหอนอน พร้อมรับฟังการนำเสนอผลการดำเนินงาน Learn to Earn ซึ่งมุ่งเน้นการเรียนรู้ที่เป็นแนวทางสร้างโอกาสในการทำงานตลอดชีวิต โดยมีเป้าหมายในการค้นหา พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้ได้ตามความถนัด ความสนใจ ศักยภาพ รู้จักจุดแข็งและตัวตนของตนเอง และใช้ทักษะ องค์ความรู้ ที่ได้เรียนรู้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ผสมผสานระหว่างการศึกษาและโอกาสทางเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน ผ่านแผนการพัฒนาตนเองส่วนบุคคลในรูปแบบ K-A-S (Knowledge Attribute Skill) อีกทั้งบ่มเพาะครูที่สามารถให้คำปรึกษา ครูผู้สร้างแรงบันดาลใจ แนะแนวทางการพัฒนาและกระตุ้นนักเรียนให้เกิดการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ โดยคำนึงถึงความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่ของจังหวัดตัวเอง และการจัด ”ทวิศึกษา” ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลายอีกด้วย