“รมช. ลิณธิภรณ์” หนุนสร้างงานสร้างอาชีพ ผลักดันผู้เรียน สกร. ที่มีศักยภาพอย่างน้อย 1,000 คน สมัครเข้...

      ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) พร้อมด้วยนายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ผู้บริหารจากกรมส่งเสริมการเรียนรู้ และนพ. ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. ) และผู้บริหารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้าร่วมแถลงข่าวเปิดตัวความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือการผลิตผู้ดูแลผู้สูงอายุ ” ระหว่างกรมส่งเสริมการเรียนรู้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องประชุมบรรจง ชูสกุลชาติ ชั้น 6 กรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ปีงบประมาณ 2568 ที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ในขณะนี้- วันที่ 30 กันยายน 2568 
      ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานราชการอื่นๆ ซึ่งวันนี้ได้มีความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 โดยมีการร่วมมือระหว่างกันเพื่อสร้างการขับเคลื่อนหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ (care taker) ซึ่งคนของ สกร. ถือว่าเป็นผู้ที่มีมาก่อนการ คือมีบุคลากรที่จะดูแลผู้สูงอายุ ก่อนที่จะมีการ Mou  ครั้งนี้เกิดขึ้น โดยในการเลือกสรรหลักสูตรของ สกร. นั้น มักคำนึงถึงหลักสูตรที่คิดว่าเมื่อเรียนไปแล้วจะสามารถนำพาไปสู่การสร้างอาชีพเสริมหรือแม้แต่นำพาไปสู่การเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างแท้จริง ในการส่งเสริมให้เกิดรายได้ ดังนั้น ในแต่ละหลักสูตรจึงมีความสำคัญที่จะสร้างความรู้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้เรียนมีใจใฝ่รู้มากขึ้น แต่เมื่อรัฐบาลมีแนวทางในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่และมีแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากพร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เรียนของผู้มีภาวะพึ่งพิงโครงการดังกล่าวได้เปิดให้การเรียนการสอนที่อบรมมานั้นจะได้ใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่ง ณ วันนี้เมื่อมีความร่วมมือกับทาง สปสช. ตนจึงตั้งใจในการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวเพราะจะเห็นได้ว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างแท้จริง ดังนั้นการขับเคลื่อนเรื่องนี้ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาของผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงให้ดีขึ้น สกร. จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศ
      ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ รมช.ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือครั้งนี้นอกจากจะเป็นการผลิตผู้ดูแลผู้สูงอายุแล้ว ยังถือเป็นสร้างการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับกลุ่มอาชีพนี้ให้มีรายได้มากขึ้น ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เห็นช่องทางสำคัญในการต่อยอดการเรียนรู้ของผู้เรียนในสังกัด สกร. ให้สามารถสร้างรายได้จริง วันนี้จึงขอประกาศชัดเจนว่า จะผลักดันผู้เรียน สกร. ที่มีศักยภาพอย่างน้อย 1,000 คน สมัครเข้าสู่การสมัครใรโครงการ Caregiver เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ และสามารถสมัครเข้าทำงานได้จริงในระบบการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
      รมช.ศธ. กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ มีทั้งหลักสูตรระยะสั้น 70 ชั่วโมงที่ได้รับใบประกาศนียบัตร ซึ่งสามารถต่อยอดสู่หลักสูตรเข้มข้น 420 ชั่วโมง ที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ได้ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงมุ่งมั่นกำกับดูแล สกร. ในการเป็นกลไกประสานข้อมูลบุคคลที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรมาตรฐาน และมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อเข้าปฏิบัติงานเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง พร้อมทั้งร่วมมือกับ สปสช. เขต และ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในแต่ละพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการจัดจ้างบุคลากรเหล่านี้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง
“ในวันนี้ความร่วมมือระหว่างกับ สปสช.และสกร.ได้เกิดขึ้นแล้ว และคาดว่าจะเกิดความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นต่อไป เพื่อร่วมกันผลักดันให้การดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลอย่่างทั่วถึงไม่ใช่การเซ็น MOU แล้วจบ  แต่เป็นการปักธงแห่งโอกาสให้ “เด็ก สกร. เรียนแล้วต้องได้งาน” ตามแนวคิด Learn to Earn ที่ดิฉันขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว